ประสบการณ์การรักษาผนังมดลูกบาง (เยื่อบุโพรงมดลูกบาง)
วันนี้หมอดาวจะมาแชร์ประสบการณ์การรักษาผนังมดลูกบาง (เยื่อบุโพรงมดลูกบาง) โดยทั่วไปความหนาของผนังมดลูกขณะไข่ตก หรือขณะที่มี LH Surge จะไม่ควรต่ำกว่า 8 มม.ถ้าบางกว่านั้นก็จะถือว่ามีผนังมดลูกบาง

ผนังมดลูกบาง เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

      1. การติดเชื้อ ซึ่งผู้ที่มีการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานบ่อยๆจะมีอาการที่สังเกตได้ คือ ตกขาวมาก มีกลิ่น ปวดท้องน้อย

      2.ผู้ที่เคยได้รับการขูดมดลูกมาก่อน ทำให้เนื้อเยื่อในบริเวณที่ถูกขูดอาจมีพังผืดมาทดแทน และทำให้เยื่อบุมดลูกเจริญได้ไม่หนาตัวเท่าที่ควร

      3.เลือดไปเลี้ยงมดลูกน้อย

      4.มีภาวะต่อต้านเยื่อบุมดลูกในร่างกาย Endometrial Antibodies

      5.ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายน้อย ซึ่งเอสโตรเจนจะมีผลต่อการสร้างความหนาตัวของเยื่อบุมดลูกในแต่ละรอบเดือน

      6.ได้รับยากระตุ้นไข่บางอย่าง เช่น Clomiphene หรือชื่อทางการค้า คือ Clomid , Serophene ซึ่งยากลุ่มนี้จะเป็นฝ่ายตรงข้าม กับฮอร์โมนเอสโตรเจน ดังนั้น ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนตามธรรมชาติไม่สามารถสร้างความหนาตัวของเยื่อบุมดลูกได้เต็มที่

      7.เนื้องอกบางอย่างของกล้ามเนื้อมดลูก หรือเนื้องอกของเยื่อบุมดลูก ที่ทำให้เยื่อบุมดลูกไม่สามารถเจริญได้ตามปกติ

======================

คนไข้ผู้หญิง อายุ 34 ปี

ประวัติ

คนไข้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เองเนื่องจากผนังมดลูกบาง 6 mm ซึ่งค่าปกติควร 8 mm ขึ้นไป

รักษามาตลอด4ปี ผนังมดลูกก็ยังเท่าเดิม มีภาวะเครียดจากการทำงาน

======================

ได้มารักษาที่คลินิก

1.อาการออฟฟิศซินโดรม

รักษาไป4ครั้ง อาการดีขึ้นมากแทบจะไม่มีอาการปวด

2.รักษาเรื่องผนังมดลูกบางและปรับสมดุลเลือดลม

**รักษาไป4ครั้ง และได้ไปตรวจผนังมดลูกปรากฎว่าหนาขึ้นเป็น 9.3mm

ซึ่งเป็นขนาดที่ดีมาก สามารถตั้งครรภ์ได้**

คนไข้ดีใจมากที่สุด ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง

=======================

-หมอได้ฝังเข็มปรับเส้นลมปราณตับให้คนไข้ได้ผ่อนคลาย ไม่เครียด

และนอนหลับสบาย

-ฝังเข็มปรับสมดุลเส้นลมปราณให้เลือดไปเลี้ยงที่มดลูกได้ดีขึ้น

ใครผนังมดลูกบาง ลูกหลุดบ่อย

อาจจะไม่ได้มีปัญหาแค่มดลูกอย่างเดียวนะคะ

#ฝังเข็มรักษาตรงจุด

#รักษาจากสาเหตุ

#ไม่รักษาปลายเหตุ 
เว็บสำเร็จรูป
×